ช่วงนี้เข้าหน้าฝนสิ่งที่คนเป็นแม่อดกังวลไม่ได้คือเรื่องความเจ็บป่วยของลูก เด็กเล็กก่อนวัยเรียน และวัยอนุบาล เป็นช่วงวัยที่รับเชื้อโรคเข้าร่างกายได้ง่ายมากเพราะภูมิคุ้มกันไวรัส และโรคต่างๆ ร่างกายยังสร้างขึ้นมาได้น้อย ลูกชายคนเล็กของแม่ก้อยก็เพิ่งออกจากการรักษาตัวด้วยโรคปอดบวมเมื่อวานนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่น้องจีนถูกแอดมิทด้วยโรคปอดบวม หรือชื่อทางการแพทย์เรียกว่า นิวมอเนีย น้องจีนเป็นเด็กที่ป่วยแล้วจะไวต่อเรื่องการลงปอดค่ะ
วันที่แม่ก้อยพาน้องจีนไปแอดมิท แม่ก้อยพบเด็กๆเข้ามาแอดมิทที่โรงพยาบาลด้วยโรคมือ เท้า ปาก กันหลายรายด้วยกัน ทำให้แม่ก้อยต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ทันที โรค มือ เท้า ปาก เป็นโรคเกี่ยวกับเชื้อไวรัสลำไส้ หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่าเอนเทอโรไวรัส กลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้คือ เด็กทารก และเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
คุณแม่สามารถสังเกตุอาการของลูกได้โดย
- มีไข้ต่ำ และอ่อนเพลีย
- สังเกตุที่มือ เท้า และปาก มีตุ่มแดงเกิดขึ้น ดยส่วนมากแล้วจะไม่คัน
- สังเกตุที่ปากมีตุ่มขึ้นที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม
- ตุ่มแดงนี้พัฒนาเป็นเม็ดตุ่มพองใส บริเวณรอบๆตุ่มจะอักเสบ และแดง
- เด็กเบื่ออาหาร งอแง
แนวทางการรักษาโดยมากรักษาตามอาการ และเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
- การให้ยาลดไข้ กรณีที่ไข้สูงห้ามให้ยา aspirin
- ให้เด็กดื่มน้ำให้มา และเพียงพอต่อร่างกายเพื่อป้องกันภาวะการขาดน้ำ ปัสสาวะควรเป็นสีใส ไม่ควรขุ่นข้น
- กรณีที่เด็กเจ็บปาก เพราะมีตุ่มแผลในปาก แนะนำให้เด็กทานอาหารเหลว หรืออาหารที่มีส่วนผสมของน้ำ เช่นข้าวต้ม แกงจืด โจ๊ก เป็นต้น
- สามารถให้เด็กบ้วนปากด้วยน้ำเกลือได้ วันละหลายๆครั้ง
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
แนวทางการป้องกัน
- ล้างมือให้สะอาด ด้วยสบู่ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสผู้ป่วย
- หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะร่วมกันของผู้ป่วย เช่นแก้วน้ำ ช้อน
- ของเล่น อุปกรณ์ ของใช้ที่ใช้บ่อยให้ทำความสะอาด
- เด็กที่ป่วยให้หยุดเรียน และแจ้งให้โรงเรียนทราบว่าป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก
- ทำความสะอาดที่อยู่อาศัย เครื่องนอน
จากการสอบถามคุณหมอ ทำให้แม่ก้อยทราบว่าอาการมือ เท้า ปาก เด็กที่ป่วยจะมีอาคารที่ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน และโรคนี้เด็กที่เป็นแล้วสามารถเป็นซ้ำได้อีกเช่นเดียวกัน